เหล่าทาสแมวคงจะคุ้นเคยกับการคลอเคลียของเจ้าเหมียวแล้วมีขนติดตามตัวเราอยู่เป็นประจำ หรืออยู่ในทุกซอกทุกมุมของบ้านจนทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่านี่คือการผลัดขนตามธรรมชาติหรือเจ้าเหมียวมีปัญหาขนร่วงกันแน่ วันนี้ Petloverthailand มีเคล็ดลับการสังเกตอาการมาบอกเพื่อให้เหล่าทาสแมวดูแลเจ้าเหมียวได้ดีขึ้น
ขนจะไม่แหว่งเป็นหย่อมๆ
เพราะตามธรรมชาติเมื่อวงจรการเจริญเติบโตของเส้นขนเดินทางมาถึงระยะที่ต้องสลัดขนเก่าที่ตายแล้วทิ้งไป กระบวนการจะค่อยๆเกิดขึ้น กล่าวคือ ขนของเจ้าเหมียวจะค่อยๆบางลง ไม่มีทางที่ขนจะแหว่งเป็นวงๆ จนเห็นผิวหนังแน่นอน แต่ถ้าคุณเห็นให้ระวังไว้เลยว่านั่นอาจไม่ใช่การผลัดขนธรรมดา แต่อาจมีปัญหาผิวหนังบางอย่างซ่อนอยู่
ผลัดขนแล้ว ต้องมีขนขึ้นใหม่
(อาจต้องใช้เวลา) นั่นจึงเรียกว่าการผลัดขน แต่ถ้าเป็นปัญหาสุขภาพ ขนที่ร่วงแล้วจะร่วงเลย คือวงจรการเจริญของเส้นขนจะผิดปกติไป ไม่มีขนล็อตใหม่ขึ้นมาแทนที่จนกว่าจะได้รับการแก้ไขที่สาเหตุของปัญหาสุขภาพนั้นอย่างตรงจุด
ขนร่วงแถมยังแห้งเสีย
นึกภาพเปรียบเทียบกับเส้นผมของเราที่แห้งกรอบ บ่งบอกถึงสุขภาพเส้นขนที่ไม่ดีอย่างแน่นอน ผิดกับการผลัดขนตามธรรมชาติ ที่ขนที่ผลัดและขนที่ยังเหลือบนตัวเจ้าเหมียวจะยังมีสภาพดีอยู่ รวมถึงการมีรังแคหรือสะเก็ดที่ผิวหนัง ก็บอกได้ว่าผิวหนังขาดความชุ่มชื่นได้เช่นกัน
ขนร่วง บวกกับปัญหาผิวหนังอื่นๆ
ชัดเจนว่าไม่ใช่แค่การผลัดขนตามธรรมชาติแน่ๆ เพราะการผลัดขนเป็นเพียงกระบวนการของรูขุมขน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับองค์ประกอบผิวหนังส่วนอื่นๆ ดังนั้นมันจึงไม่ควรเกิดปัญหาเช่น การเกาคัน ผื่นแดง เป็นสะเก็ด มีตุ่มแดงหรือตุ่มหนอง เป็นต้น
แม้ว่าจะเป็นการผลัดขนตามธรรมชาติแต่เจ้าของอย่างเราๆก็ควรหมั่นแปรงขนและสังเกตสุขภาพผิวหนังและเส้นขนของเจ้าเหมียวอย่างสม่ำเสมอ เพราะจะช่วยกำจัดเศษขนที่ตายออกไปโดยเร็ว ลดปัญหาก้อนขนของเจ้าเหมียว และช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตอีกด้วย
